สักครู่พี่ทำเอง…คราวแรกของอิงค์จ้ะ

สักครู่พี่ทำเอง…คราวแรกของอิงค์จ้ะ
สวัสดีจ้ะ เรื่องของอิงค์เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมานี้เอง พิ้งค์อยู่คอนโดแถวสุขุมวิทกับบิดามารดา โดยชั้นที่พิ้งค์อยู่จะแบ่งเป็น สองห้อง เป็นห้องทางด้านซ้ายกับห้องทางด้านขวา (เป็นห้องพัก) ห้องตรงกันข้ามกับห้องพิ้งค์เป็นห้องของเพื่อนฝูงบิดาที่สนิทกันมากมาย ครอบครัวของเพื่อนฝูงบิดาก็อยู่กัน 3 คนแบบเดียวกัน เป็นบิดามารดารวมทั้งลูกชายชื่อพี่กระเป๋า อายุห่างจากพิ้งค์ 6 ปี พิ้งค์กับพี่กระเป๋าสนิทกันมากมาย คราวก่อนแม่จะทำงานขับรถไปส่งพิ้งค์ไปเรียน แต่ว่าเพียงพอพี่กระเป๋าขับขี่รถ พี่กระเป๋าก็เลยมีบทบาทขับขี่รถไปรับส่งพิ้งค์ ด้วยเหตุว่าสถานศึกษาพิ้งค์อยู่ ชิดกับมหาลัยพี่เขา บิดามารดาของพิ้งค์
กับบิดามารดาของพี่กระเป๋าทำธุรกิจด้วยกัน ตอนปิดภาคการศึกษาใหญ่ปีที่ผ่านมา บิดามารดาของพิ้งค์มีธุรกิจ ที่จำต้องเดินทางไปต่างถิ่น โดยบิดามารดาของพี่กระเป๋าก็จำต้องไปด้วย เลยฉวยโอกาสท่องเที่ยวต่อด้วย ช่วงแรกพิ้งค์กับพี่กระเป๋าจะไปด้วย แต่ว่าที่สถานศึกษาพิ้งค์มีเก็บเนื้อเก็บตัวนักกีฬา พิ้งค์เป็นนักกีฬาว่ายของสถานศึกษา ก็มิได้เก่งมากสักเท่าไรนัก แต่ว่าที่สถานศึกษาไม่ค่อยมีคนสมัคร ตอนคัดเลือกตัวพิ้งค์เลยติดด้วย คุณครูที่สถานศึกษาจัดเป็นตารางฝึกว่าย รวมทั้งพูดว่าหากผู้ใดกันไม่กระทำตามตารางที่วางไว้ จะเอาออก พิ้งค์ต้องการลงแข่งขันว่ายมากมาย เลยขอไม่ไปด้วย ซึ่งบิดามารดาพิ้งค์ช่วงแรกไม่ยินยอม พูดว่าไม่มีผู้ใดอยู่บ้าน พิ้งค์เลยไป คุยกับพี่กระเป๋า ขอให้พี่กระเป๋าช่วย เนื่องจากว่าพี่กระเป๋ารักพิ้งค์เสมือนน้องสาวคนหนึ่ง เลยช่วยกล่าวให้ รวมทั้งตัวเองก็ตกลงว่าจะอยู่ ดูแลพิ้งค์ให้ ทางบ้านก็เลยยอม ในเวลานั้นพิ้งค์ดีใจมากที่กำลังจะได้อยู่บ้านผู้เดียว ไม่ต้องมีผู้ดูแล ด้วยเหตุว่าไม่เคยได้โอกาสเลย ในวันแรกที่ไปส่งบิดามารดาเดินทางเสร็จ
พี่กระเป๋าก็พาพิ้งค์ไปฝึกว่ายที่สถานศึกษา โดยไปนั่งดูด้วยจนถึงฝึกเสร็จ คุณครูที่ฝึกหัด ให้ก็ขอเสวนากับผู้ดูแลนักกีฬาทุกคน เพื่อทำความเข้าใจสำหรับในการฝึกหัด พิ้งค์ก็เลยให้พี่กระเป๋าเป็นผู้ดูแลให้ คุณครูพูดว่า หากเป็นได้ก็อยากที่จะให้มาฝึกที่สถานศึกษาแต่ละวัน แต่ว่าหากไม่สบาย จะให้นักกีฬาฝึกเองได้ แต่ว่าขอให้มาเจอกันแต่ละวันอาทิตย์ เพื่อฝึกด้วยกัน รวมทั้งบันทึกสถิติของแต่ละคน แล้วให้นักกีฬาลงนามว่าจะเลือกมาฝึกแต่ละวันที่สถานศึกษา หรือมาเฉพาะวัน อาทิตย์ พี่กระเป๋าก็ถามพิ้งค์ เนื่องจากว่าพิ้งค์เกรงอกเกรงใจพี่กระเป๋าที่จำต้องมารับส่งแต่ละวัน
เลยขอมาฝึกเฉพาะวันอาทิตย์ พี่กระเป๋าพูดว่าจะเป็น โค๊ชรอช่วยฝึกให้ ที่คอนโดที่พิ้งค์อยู่มีสระว่ายน้ำอยู่ที่ด้านล่าง ก็เลยสบายมากมาย ทุกเย็นพี่กระเป๋าก็จะมาว่ายเป็นเพื่อนพิ้งค์ ที่สระจะไม่ค่อยมีผู้ใดกันมาว่าย ด้วยเหตุว่าเป็นสระเฉพาะคนที่อยู่ในคอนโดเพียงแค่นั้น เลยเสมือนมีสระส่วนตัวว่ายกันเพียงแค่ 2 คน ด้วยเหตุว่าพวกเราเลือกที่จะว่ายในตอนทุ่มสองทุ่ม จะได้ปลอดคนใช้สระ ตอนว่ายเล่นร่วมกัน ก็มีครั้งคราวพี่กระเป๋าเอามือมาโดนทรวงอก ต้นขา ตูด อื่นๆอีกมากมาย ของพิ้งค์ ครั้งคราวก็โอบพิ้งค์เอาไว้ภายในวงแขน แต่ว่าพิ้งค์มิได้คิดอะไร ด้วยเหตุว่ามีความคิดว่าเขาเป็นพี่ชาย มีอยู่วันหนึ่ง พี่กระเป๋าก็เอาเครื่องถ่ายวีดิโอมาถ่ายในเวลาที่พิ้งค์ฝึกว่าย เพื่อจะได้เอาไว้มองว่าควรเปลี่ยนแปลงการว่ายอปิ้งไร สลับกันถ่ายสนุกสนาน มากมาย
ภายหลังว่ายเสร็จก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เพียงพอพิ้งค์เข้ามาถึงที่ห้องก็มีโทรศัพท์เพื่อนฝูงมา พิ้งค์คุยเสียนานจนถึงพี่กระเป๋ามา เรียกไปรับประทานข้าว ซึ่งก็ปกติที่จะสั่งอาหารมากินกันที่ห้องพี่กระเป๋าอยู่แล้ว พิ้งค์ก็เลยไปรับประทานข้าวถึงแม้ว่าอยู่ในชุดที่มีไว้ใส่ว่ายน้ำโดยสวมชุด ปกคลุมทับอยู่ เพียงพอพี่กระเป๋ามองเห็นเข้าก็เอามือล้วงเข้ามาจับเหนือทรวงอก ใกล้ๆนมของพิ้งค์ แล้วพูดว่าชุดยังเปียกชื้นๆอยู่เลย ใส่แล้วสักครู่ เป็นหวัดให้ถอดชุดที่มีไว้ใส่ว่ายน้ำออก แล้วใส่แต่ว่าชุดปกคลุม โดยให้ไปเปลี่ยนที่ส้วมของพี่เขา แล้วพี่กระเป๋าก็พูดว่าให้รอคอยแป๊บหนึ่ง จะเดินเข้าไปเปิดไฟให้ก่อน พิ้งค์ก็เลยจำต้องปฏิบัติตามที่พี่เขาบอก ด้วยเหตุว่าเกรงอกเกรงใจที่จำต้องให้เขารอคอยรับประทานข้าวนาน แล้วตนเองก็หิว มากมายด้วย ภายหลังทานอาหารเสร็จ พี่กระเป๋าก็เชิญให้มองวีดิโอที่ถ่ายไว้ พิ้งค์ต้องการมองอยู่และเลยยังไม่กลับไปเปลี่ยนแปลงชุด มีความคิดว่าค่อย อาบน้ำก่อนนอนก็ได้ พวกเราเลยมานั่งดูวีดิโอด้วยกัน พี่กระเป๋าก็ช่วยวิภาควิจารณ์อิริยาบถการว่ายน้ำของพิ้งค์
และพูดว่าพิ้งค์ของพี่ โตเป็นสาวแล้วนะนี่ แล้วพี่กระเป๋าก็เล่าให้ฟังว่า เคยได้เห็นเพศหญิงสวมชุดว่ายแล้วมีขนแพรมออกมาน่าชิงชังมากมาย แต่ว่าของพิ้งค์ไม่มี พี่กระเป๋าพูดว่าพิ้งค์ต้องระมัดระวังนะ ไม่เช่นนั้นอายบุคคลอื่นห่วยแตก และถามคำถามว่ามีขนงอกหรือยัง พิ้งค์อายมากมาย พี่กระเป๋าพูดว่ามองไม่เห็นจำต้องอาย เรื่องธรรมชาติ เขาก็คุยกันระหว่างญาติกันทั้งหมด พิ้งค์ก็เลยผงกศีรษะว่าเริ่มขึ้นแล้ว ก็แหมอยู่มัธยม3 กำลังจะโตเป็นสาวก็จำต้อง มีบ้าง พี่กระเป๋าก็ถามอีกว่ามีเมนส์หรือยัง พิ้งค์พูดว่ายัง แต่ว่าเพื่อนฝูงๆที่ห้องบางบุคคลก็มีแล้ว พี่กระเป๋าพูดว่าหากขนเริ่มขึ้นก็จะ จำต้องโกนออก พิ้งค์พูดว่าควรต้องทำเช่นไร
พิ้งค์ทำไม่เป็น พี่กระเป๋าก็เสนอแนะว่าให้ขอความเห็นม่าม้าตอนกลับมา ด้วยเหตุว่าพิ้งค์จำต้อง สวมชุดว่าย พิ้งค์ก็เริ่มเป็นห่วง พี่กระเป๋าถามคำถามว่าเมื่อไรพิ้งค์จะเลิกว่าย ด้วยเหตุว่าพี่ไม่ต้องการให้พิ้งค์สวมชุดว่าย พิ้งค์ก็งงเต็ก ถามคำถามว่าหุ่นพิ้งค์น่าขยะแขยงมากมายหรือ พี่กระเป๋าก็พูดว่าพี่หวง ไม่ต้องการให้ผู้ใดกันมองดูพิ้งค์ ก็พิ้งค์งามออก กลัวว่าพิ้งค์มีเพื่อนชายแล้ว ก็จะลืมพี่ พิ้งค์ก็หัวเราะว่าไม่มีผู้ใดมาจีบพิ้งค์หรอก ก็พี่กระเป๋าเล่นไปรับส่งพิ้งค์แต่ละวันจนถึงโดนล้อ กล่าวหาเป็นแฟนพี่กระเป๋า พี่เป้ยิ้มแล้ว ก็ดึงพิ้งค์เข้าไปกอด
แล้วถามคำถามว่าแล้วพิ้งค์จะเป็นแฟนพี่หรือไม่ พิ้งค์สะดุ้งมากมาย รีบดิ้นออก พี่กระเป๋ามีความเห็นว่าพิ้งค์ดิ้นก็เลยพูดว่า พิ้งค์ไม่ชอบพี่มากมายเลยหรือ พิ้งค์พูดว่าไม่ แต่ว่าพิ้งค์ยังเด็ก แล้วจะเป็นแฟนพี่กระเป๋าได้ยังไง พี่กระเป๋าพูดว่า พี่รักพิ้งค์ รักมากมาย พิ้งค์ไม่รักพี่เลยหรือ พิ้งค์ตอบว่ารัก แต่ว่าพิ้งค์กลัวว่าเพื่อนฝูงๆพี่จะล้อว่าแฟนพี่ไม่ได้การ ไม่สวย พี่เป้ยิ้มและพูดว่า พี่ไม่สนใจหรอก ขอให้พิ้งค์รับพี่เป็นแฟนก็เพียงพอ พิ้งค์เลยพูดว่าก็ได้ ด้วยเหตุว่าพิ้งค์ก็ไม่เคยรักผู้ใดกันเท่าพี่ แต่พิ้งค์ไม่เคยทราบหรอกนะ ว่าเป็นแฟนพี่จำต้องทำเช่นไร พี่กระเป๋าพอใจใหญ่ และดึงพิ้งค์เข้าไปกอดซะแน่นเลย พูดว่าแล้วพี่จะสอนให้เอง
แล้วพี่กระเป๋าก็ก้มตัวมาหอมแก้มพิ้งค์ เอาจมูกมาไซ้ซอกคอ ซอกหู แล้วจูบไปทั่วๆหน้า พิ้งค์เป็นสุขมากมาย มันอิ่มเอม บอกผิดเลย พี่กระเป๋าบอกให้พิ้งค์ยืนขึ้น และพูดว่าพิ้งค์ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ พิ้งค์นะเป็นสาวแล้ว พิ้งค์เคยพินิจตนเอง บ้างหรือเปล่าว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง พลางพี่กระเป๋าก็เอื้อมมือมาจับที่ไหล่พิ้งค์ แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆเลื่อนชุดปกคลุมออก
พิ้งค์รีบจับไว้ พี่กระเป๋าพูดว่าเป็นคู่รักกันแล้วไม่ใช่หรือ ช่างเถอะหรอก คู่รักกันก็จำต้องไม่ปกปิดซึ่งกันและกัน แล้วพี่ก็แค่ต้องการจะมองว่าพิ้งค์งาม แค่ไหน พิ้งค์พูดว่าพิ้งค์อาย พี่กระเป๋าพูดว่ามองไม่เห็นจำต้องอายพี่เลย พี่เพียงแค่ขอดูความงดงามของแฟนตนเองจะเป็นไรไป พี่กระเป๋าเบาๆปลดชุดปกคลุมออก ในเวลานั้นอาจจะไม่ต้องบอกแล้วนะ ว่าพิ้งค์กำลังยืนแก้ผ้าแก้ผ่อนซึ่งๆหน้าพี่กระเป๋า พี่กระเป๋าดูว่าไม่คิดเลยว่าพิ้งค์จะงาม ขนาดนี้ และดึงตัวพิ้งค์เข้าไปกอด พี่กระเป๋าเริ่มตรวจร่างกายของพิ้งค์ด้วยจมูกดั้นด้นไปทั่ว เริ่มตั้งแต่ต้นคอ บ่อยลงมาที่ ทรวงอก มาหยุดที่นมพิ้งค์
พูดว่านมพิ้งค์สวยจัง ขนาดไม่ใหญ่มาก สมตัว แต่ว่าจุกนมสิใหญ่ที่จริงแล้วก็ใช้ริมฝีปากเม้มที่ จุกนมทั้งสองข้างอย่างบ้าดีเดือด แล้วก็ใช้ปากดูดครั้งละข้างสลับกันไปๆมาๆ ในเวลานั้นพิ้งค์บอกผิดเลยว่ารู้สึกยังไง มันหวิวๆสะท้าน เคลิ้มไปหมด เหนื่อยที่จะผลักพี่เขาออก แต่ใช้มือกอดพี่เขาตอบ แล้วพี่เขาก็อุ้มตัวพิ้งค์ไปที่เตียงพี่เขา และตรวจร่างกายของพิ้งค์ต่อ จนถึงไปถึงท้องน้อย พี่เขาพูดว่าไหนขอดูหน่อยสิว่ามีขนเยอะแยะไหม แล้วพี่เขาก็เอาลิ้นเลีย ไปที่เนิน พูดว่าด้านล่างนี่ใหญ่เกินกำลังนะ แล้วก็ใช้ลิ้นดันผ่านเข้าไปที่ร่อง เสียวมากมาย มือก็เอามาจับที่นมพิ้งค์ทั้งสองข้าง คลึงเคล้าอย่างเบิกบานมือ พิ้งค์เสียวมากมาย ทนไม่ได้ร้องครวญครางออกมา พี่กระเป๋าทั้งยังดูดทั้งยังเลียจนถึงพิ้งค์ทนไม่ได้ มันเป็นสุขมากมาย เสมือนได้ขึ้นสรวงสวรรค์ พี่กระเป๋าถามคำถามว่าเสร็จแล้วหรือ แหมมีน้ำออกมาเยอะแยะจัง แล้วก็ใช้ปากดูดดื่มน้ำจนถึงพิ้งค์เสียวอีกแล้ว แล้วพี่กระเป๋าก็ใช้นิ้วแหย่เข้าไปที่ร่องด้วย เพิ่มความคะนึงให้พิ้งค์มากขึ้นไปอีก และก็หลังจากนั้นจึงค่อยๆเพิ่มนิ้วเข้ามาเป็นสองนิ้ว จนถึงน้องทน ไม่ไหว น้ำเยิ้มไหลห้อยมาถึงที่ตูดเฉอะแฉะไปหมด พี่กระเป๋าหัวเราะใหญ่ พูดว่าเพียงเท่านี้ก็เสร็จอีกแล้วหรือ ต่อไปนี้พิ้งค์มาตรวจพี่บ้างสิ พลางถอดชุดของตนเองออก พิ้งค์ก็พึ่งเคยได้เห็นของเพศชายก็วันนี้ล่ะ ท่อนของพี่เขาใหญ่มากมาย หลังจากนั้นทดลองวัดมอง ตอนพอง สุดกำลังก็ราว 6×7 นิ้ว พี่เขาให้พิ้งค์จับรูดขึ้นรูดลง
และให้จูบมัน เลีย และดูดด้วย พิ้งค์ทดลองทำมอง แต่ว่ามันใหญ่มาก แล้วพิ้งค์ก็อาจจะยังใหม่อยู่ มองเซ่อซ่า พี่กระเป๋าเลยบอกให้เพียงพอ สักครู่พี่ทำเอง แล้วพี่เขาก็ใช้ปากมาจูบปากพิ้งค์ สอนให้พิ้งค์จูบ แล้วพี่เขาก็เริ่มกลืนรับประทานพิ้งค์หมดทั้งตัวอีกที จนถึงพิ้งค์เสียวไปหมด พี่กระเป๋าพูดว่าขอให้พี่เข้าไปนะ และจับขาพิ้งค์ให้หัวเข่างอแล้ว แบะออก เอาท่อนของเขาแหย่ลงไปในร่อง เพียงพอมันเข้าไปได้หน่อยเดียว พิ้งค์เจ็บมากมาย พี่เขาก็หยุด แล้วก็ใช้นิ้วเขี่ยติ่ง สลับกับเบาๆกดเข้ามาครั้งละนิด พิ้งค์เจ็บจนถึงร้องไห้ แต่ว่าก็เสียวมากมาย พี่เขาก็ถามคำถามว่าดียิ่งขึ้นหรือยัง พิ้งค์ผงกศีรษะ พี่เขาก็กดจนถึงมิดเลย และเริ่มโยกเข้าออกจากช้าๆเบาๆเร็วขึ้นๆพิ้งค์เสียวจนถึงลืมเจ็บ มันเสียวกว่าที่พี่เขาใช้ลิ้นกับนิ้วอีก จนถึงพิ้งค์เสร็จอีกที พี่เขาก็เอาหมอนมารองก้นพิ้งค์ให้สูงมากขึ้นอีก และเอาขาอิงค์พาดไหล่ขย่มอีก มันแน่นไปหมด เสียวมากมาย มากมายสุดๆและมีความคิดว่ามีน้ำอุ่นๆพุ่งเข้าไปด้านใน พิ้งค์สุขสบายที่สุดในโลกเลย อ่อนล้าอย่างมาก พี่กระเป๋าพูดว่าพี่ไม่เคยเป็นสุข เท่านี้มาก่อนเลย
พิ้งค์บริสุทธิ์ที่จริงแล้วพี่เขาก็เอาผ้ามาเช็ดถูพวกเรานอนกอดกันครู่หนึ่ง พี่เขาก็เชิญไปอาบน้ำ โดยอุ้มพิ้งค์ไปที่ ส้วมใหญ่ ที่ห้องของบิดามารดาพิ้งค์ พวกเราลงไปแช่ลงในอ่างน้ำร่วมกัน อาบน้ำร่วมกัน อาจจะไม่ต้องบอกนะว่ามิได้อาบน้ำกันเฉยๆพวกเราเป็นสุขกันในส้วมด้วย ภายหลังอาบน้ำเสร็จ พี่เขาก็ให้พิ้งค์นั่งเป่าผมให้แห้งซะก่อน พอกลับมาที่เตียงอีกครั้ง พี่เขาก็เอาผ้าที่มีไว้ปูที่นอนผืนใหม่มาปกคลุมทับผืนเดิมอย่างหยาบๆพูดว่าผืนด้านล่างมันเปรอะแล้ว คืนนั้นตลอดทั้งคืนพวกเราเป็นสุขกัน ไม่เคยทราบกี่คราวต่อกี่คราว จนถึงพิ้งค์ระบมไปหมด จนถึงสายๆอีกวันหนึ่งพี่กระเป๋าก็ปลุกพิ้งค์ขึ้นมากินข้าว และบอกให้กลับไปแต่งตัวที่ห้อง แล้วพี่จะพาไปจ่ายตลาดกัน กลางทางพี่เขาแวะเอาผ้าที่มีไว้ปูที่นอนไปส่งซักด้วย 1 ผืน และไปเลือกซื้อผ้าที่มีไว้ปูที่นอนอีก 1 ชุด พี่เขาพูดว่าจำต้องทิ้งผ้าที่มีไว้ปูที่นอนผืนแรกไป
ด้วยเหตุว่าพิ้งค์ทำเลที่ตั้งอะเทอะหมด พิ้งค์ยังงงเต็กเลยว่าเพราะเหตุไรไม่ส่งซักร่วมกัน พี่เขาพูดว่า มิได้หรอก อายเขา ทิ้งไปล่ะก็ดี ภายหลังเรื่องราววันนั้น พี่เขาก็พาพิ้งค์ท่องเที่ยวพักที่สมุทร และเป็นสุข กันตลอด จนถึงบิดามารดากลับมา พวกเราก็พากเพียรประพฤติตนให้ปกติ ซึ่งเดิมก็สนิทกันอยู่แล้ว บิดามารดาเลยไม่สงสัยอะไร พวกเราสองคนแอบมี ความสำราญกันบ่อยมา พี่กระเป๋าแอบถ่ายวีดิโอไว้ด้วยในคืนนั้น พิ้งค์ยังงงเต็กอยู่เลยว่าตั้งกล้องถ่ายรูปตั้งแต่เมื่อไร กล้องถ่ายรูปถูกตั้งไว้ที่บนชั้น หนังสือ ข้างๆเตียง ภาพที่ได้ก็เลยได้จากมุมบนทะแยงลงมาข้างๆของเตียง ก็เริ่มถ่ายตั้งแต่ที่พี่เขาถอดเสื้อถอดผ้า นั่นแหละ พี่เขาพูดว่าเสียดายที่ปลอดคนช่วยถ่าย มิเช่นนั้นนะภาพที่ได้อาจจะชัดรวมทั้งได้มุมดีๆกว่านี้อีก